งานศิลปะ ไม่จำเป็นกับชีวิตจริงเหรอ
งานศิลปะ ไม่จำเป็นกับชีวิตจริงเหรอ
งานศิลปะ หรืออาชีพสายศิลปะ อาชีพที่ใครหลายคนน่าจะโดนผู้ใหญ่ในบ้านเราดูถูกดูแคลนกันมาเยอะตั้งแต่เด็กว่า เรียนศิลปะไปมันไส้แห้ง มันทำมาหากินไม่ได้บ้างล่ะ ไม่มีประโยชน์กับชีวิตบ้างล่ะ ซึ่งเอาตรง ๆ เขาก็ไม่ได้พูดผิดแต่อย่างใดที่บอกว่าศิลปะมันไม่มีประโยชน์ แต่นั่นหมายถึงในประเทศเราเท่านั้น ในประเทศของเรา เคยมีอาจารย์ท่านหนึ่งกล่าวไว้ประมาณว่า คนสายศิลปะในประเทศไทยเหมือนพืชหรือกระบองเพชรที่โตมาในประเทศนี้ โตได้ในสภาพแวดล้อมที่แย่มาก ๆ และแปลกมากที่พวกเขาเติบโตได้ในดินแดนแห้งแล้งที่ไม่ให้ค่างานศิลปะแบบนี้ วันนี้เราอยากมาชวนคุยกันเกี่ยวกับงานศิลปะว่าจริง ๆ แล้วมันมีค่ามากกว่าที่ใคร ๆ คิดหลาย ๆ เท่าเลยนะงานศิลปะที่ถูกใช้จริง
งานศิลปะที่ถูกใช้จริงและมีประโยชน์จริง ๆ บนโลกนี้ก็มีอยู่นะ รู้หรือไม่ว่าตลอดชีวิตเราอยู่กับงานศิลป์มาแทบจะตลอดทุกลมหายใจเลย เพราะงานศิลปะมันไม่ใช่แค่ภาพที่ถูกถ่ายทอดลงบนแผ่นแคนวาสหรือผ้าใบวาดภาพเท่านั้น และก็ไม่ใช่แค่รูปปั้นหรืองานศิลปะอย่างเดียวด้วย ลองนึกภาพบ้านของเรา บ้านของเราที่มันสวยที่มันน่าอยู่ มันก็เป็นศิลปะแขนงหนึ่งเหมือนกัน ผ่านการออกแบบทั้งการใช้งาน และความสวยงาม มันถึงได้เป็นชิ้นงานขนาดใหญ่ให้เราได้ใช้พักผ่อนนอนหลับกัน ไม่งั้นถ้าจะบอกว่าการสร้างบ้านไม่ใช่งานศิลปะ งั้นบ้านของคุณก็ต้องเป็นบล็อกเหลี่ยม ๆ ที่นอนกับพื้นแล้วล่ะ
และไหนจะข้าวของเครื่องใช้อีก มันคือการออกแบบ แต่ก็มีการเพิ่มงานศิลปะเข้าไปในสินค้าเหล่านั้นด้วย เพราะมนุษย์เราคือสัตว์ที่มีความรู้สึก และความรู้สึกของเราก็ตอบสนองกับงานศิลปะอยู่แล้ว นั่นคือหนึ่งเหตุผลที่ทำไมสินค้าหลากหลายแบบจึงไม่ใช่ทุกแบบที่ถูกขายได้ บางอย่างก็ด้วยฟังค์ชั่นการทำงาน บางอย่างก็ต้องขอบคุณดีไซน์และความสวยงาม ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเหล่านั้น เช่นโซฟาที่เรานั่งในบ้าน สีและทรงก็เป็นงานศิลปะ โทรทัศน์ ทีวี ตู้เย็น มันก็มีเรื่องของการออกแบบมาเกี่ยวข้อง หรือรูปโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เราไปซื้อมาใช้งาน หน้าปกของมันคืองานศิลปะที่จะดึงดูดเราให้บริโภคของ ๆ เขา เพราะฉะนั้นใครที่บอกว่างานศิลปะไม่ได้จำเป็นหรือไม่ได้ใกล้เคียงกับชีวิตเลย คุณอาจจะต้องถอดเสื้อผ้า และทิ้งทุกอย่างที่คุณใช้อยู่ทุกวันนี้ไปอยู่ในป่าในธรรมชาติแล้วล่ะ
งานศิลปะที่ไม่ได้ถูกใช้ล่ะ
งานศิลปะที่ใช้ได้ขายได้เป็นกำไรอันนั้นพอเข้าใจ แล้วสำหรับงานศิลปะที่ไม่ได้ใช้ในชีวิตเลยล่ะเป็นยังไง เรื่องนี้เราก็อยากจะบอกว่า เหตุผลหลัก ๆ ของงานศิลปะ ก็เพื่อความบันเทิงและความพึงพอใจของคนที่เสพงานนั่นแหละ ตราบใดที่คนเรายังมีความรู้สึกนึกคิด งานศิลปะใหม่ ๆ ก็จะยังคงถือกำเนิดขึ้นมาเรื่อย ๆ ให้เราคนเสพศิลป์ได้เข้าไปเสพงานกันนั่นแหละ
เคยได้ยินข่าวการประมูลงานศิลปะที่เขาพากันยกมือประมูลให้ราคากันหลักแสนหลักล้านกันบ้างหรือเปล่า ทำไมล่ะ ทำไมคนถึงไปให้ค่ากับภาพวาด ไม่ก็สิ่งของที่มันไม่ได้สร้างผลกำไรหรือผลตอบแทนกันขนาดนั้น ตรงนี้แหละที่เป็นประเด็นที่น่าคุย ต้องบอกว่า งานศิลปะ ถ้าคนมันชอบจริง เท่าไหร่เขาก็ยินดีจ่าย นี่คือเหตุผลที่เราจะได้เห็นคนมีเงินยอมแย่งกันซื้องานศิลปะต่าง ๆ แต่ยังมีเหตุผลอีกหลาย ๆ อย่างให้ได้พูดถึงกันด้วย
งานศิลปะนั้นอาจจะสร้างกำไรให้เขาก็ได้ ในต่างประเทศ ประเทศที่เจริญแล้วที่ไม่เหมือนอย่างประเทศไทย เราจะได้เห็นว่าเขามีพิพิธภัณฑ์หรือหอศิลป์ให้คนได้เข้าไปชม มันเป็นตัวบอกถึงความเจริญของบ้านเขาในระดับนึงเลยทีเดียว เพราะมันแปลว่า เขามีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแรงพอ ให้คนได้เอาเวลาว่างไปทำอะไรแบบนี้กันได้บ้างแล้ว ซึ่งในต่างประเทศ เขาอาจจะซื้อภาพแบบนี้ไปไว้ในหอศิลป์ แล้วเปิดให้คนเข้าชม ซึ่งหากมีการคิดเงินค่าเข้า มันก็ย่อมสร้างผลประกอบการและกำไรให้กับเจ้าของด้วยเช่นกัน หรือการนำไปขายต่อให้กับผู้ที่ต้องการมันก็ให้เงินเพิ่มขึ้นไปอีก ถ้าโชคดีน่ะนะ
งานศิลปะมีไว้ให้ทุกคนได้เสพ
งานศิลปะคือสื่อประเภทหนึ่งที่เป็นสินค้าราคาแพง มันคือสินค้าประเภทฟุ่มเฟือย ถ้าพูดตามหลักเศรษฐศาสตร์ แต่ถึงมันจะเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย มนุษย์ก็ต้องการมันอยู่ดี มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เรามีชีวิตรอด แต่มันคือสิ่งที่ทำให้เราอยากมีชีวิตต่อไปได้ เช่นสื่อบันเทิงอย่างงานภาพ งานปั้น งานเขียน งานเพลง งานศิลปะเหล่านี้คือสิ่งที่มอบ ความบันเทิง อันเป็นหนึ่งความต้องการที่ไม่ได้จำเป็นของมนุษย์ แต่สัตว์อื่นก็ไม่ได้มีความต้องการเหมือนกับเรา เพราะงั้นต้องบอกกันอีกครั้งว่า ตราบใดที่มนุษย์ยังเป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึกนึกคิด งานศิลปะจะยังเป็นสิ่งให้ผู้คนได้เข้าไปเสพกันต่อไป แต่ให้มันจะไม่ได้สร้างประโยชน์เป็นเม็ดเงินอย่างใด แต่มันจะเป็นคุณค่าทางจิตใจให้กับผู้ที่ต้องการมัน เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงให้ได้เดินไปต่อในชีวิต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น