ทำไมอนิเมะต่างโลกถึงเยอะ และเป็นที่นิยมในสมัยนี้

  

ทำไมอนิเมะต่างโลกถึงเยอะ และเป็นที่นิยมในสมัยนี้

  ทำไมอนิเมะต่างโลกเยอะจัง ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่ชอบดูอนิเมะจะสังเกตุกันได้ชัดเลยว่า อนิเมะที่เป็นตัวละครโลกปัจจุบันต้องหลงยุค โดนวาร์ป ไม่ก็โดนสิบล้อชนจนไปโผล่ที่โลกยุคกลางแฟนตาซีจะมีเยอะเป็นพิเศษ บ้างก็เป็นเด็กวัยเรียน บ้างก็เป็นผู้ใหญ่ไวทำงาน สิ่งที่ทำให้อนิเมะแนวนี้มีสเน่ห์ น่าสนุกน่าติดตาม ก็คงเป็นการที่ตัวละครนั้น ๆ เป็นคนจากยุคเรา แต่ได้นำความรู้ที่มีไปใช้เอาตัวรอดในยุคก่อน ๆ ไปเจอเหตุการณ์ต่าง ๆ เวทย์มนตร์ล้ำ ๆ ดราม่าเข้มข้น ตัวละครน่ารัก ๆ แต่จริง ๆ จะเวทย์มนตร์ เนื้อเรื่องดราม่า หรือตัวละครน่ารัก ๆ ก็ไม่เห็นจะต้องเป็นแค่อนิเมะต่างโลกอย่างเดียวเลย ทำอนิเมะธรรมดาที่มีตัวแปรหลัก ๆ ของเรื่องเป็นจุดขายก็ทำได้เช่นกัน ทำไมต้องเจอแนวนี้เยอะจัง วันนี้เราอยากชวนคุยกันเรื่องเหตุผลใด ๆ ก็ตามที่ทำให้อนิเมะแนวนี้ต้องมีเยอะเป็นพิเศษในช่วงนี้


อนิเมะแนวนี้เป็นกระแส

  อนิเมะแนวนี้มีเยอะเพราะกระแสมันมาแรงหรือเปล่า จริง ๆ ตรงนี้อาจจะไม่ใช่เหตุผลที่ถูกต้องไปซะทั้งหมดเลยทีเดียว จริง ๆ ถ้าเราลองไปนั่งดูเวอร์ชั่นมังงะของอนิเมะแต่ละเรื่องที่เป็นแนวข้ามมาโลกอื่นแบบนี้ มักจะเป็นเรื่องที่ถูกเขียนไว้เมื่อนานมาแล้ว แค่มีการนำมาทำเป็นอนิเมะเอาตอนหลัง ๆ หรือไม่ก็บังเอิญมาบูมมาฮิตกันตอนนี้ หลาย ๆ ค่ายผู้ผลิตจึงนำไปทำเป็นอนิเมะกันซะเยอะเพื่อให้ทันกับกระแสความต้องการของคนดู ในเมื่อเรื่องหนึ่งมันสนุกมันดี ไม่แปลกใจถ้าจะมีใครที่อยากทำตามเหมือนกัน กลายเป็นว่าเราจะได้เห็นอนิเมะแนวนี้เยอะเป็นพิเศษ ซึ่งมันก็มีความสนุกในเนื้อเรื่อง ตัวแปร เป้าหมายที่ต่างกัน แต่ถึงอย่างนั้น พอมีกระแสตรงนี้เข้ามา ก็น่าจะมีการเขียนหรือทำอนิเมะต่างโลกเข้ามาเพิ่มเรื่อย ๆ และกลายเป็นว่าอนิเมะแนวอื่นไม่ค่อยโผล่มาให้เราเจอเลย

อนิเมะแนวอื่นมันทำยาก

  พอเราบ่นกันเสร็จเรื่องอนิเมะว่าทำไมไม่ค่อยมีแนวธรรมดาหรือแนวอื่นมากเลย เรามาลองพิจารณาถึงการสร้างเนื้อเรื่องกัน จะเขียนนิยายหรือมังงะสักเรื่อง ใช้พลังงานมากกว่าที่เราคิด การจะต้องมานั่งคิดเนื้อเรื่องอะไรสักอย่างไม่ใช่อะไรง่าย ๆ เลย เคยได้ยินกันหรือเปล่าว่ามนุษย์เราเวลาที่กำลังโกหก การโกหกจะกินพลังงานในร่างกายเยอะมาก ๆ และยิ่งการต้องสร้างเรื่องอะไรสักอย่างขึ้นมาจากความคิดสร้างสรรค์ นี่คือสิ่งที่ยากและท้าทายที่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ และที่หนักกว่านั้นคือ สร้างสรรค์ได้ แต่ต้องสนุกด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกคนอีกเช่นกันที่จะมอบประสบการณ์ความสนุกตื่นเต้นได้ มีมังงะหรืออนิเมะหลายเรื่องให้เราได้เสพได้สนุกกัน แต่คำถามคือมีกี่เรื่องที่ถูกสร้างขึ้นมา แต่มาไม่ถึงเรา หรือไม่ก็เป็นเราที่เข้าไม่ถึงเรื่องราวเหล่านั้น นี่คือความยากของการสร้างเนื้อเรื่องอนิเมะแนวย้อนอดีตไปเจอเหตุการณ์การพจญภัยต่าง ๆ แต่มันคงไม่ยากเท่ากับการทำอนิเมะในที่มีเนื้อหาเป็นตีมของยุคปัจจุบันหรืออนาคต เคยนึกเล่น ๆ กันไหมว่าคนเรารู้สึกสนุกหรือสนใจในอะไรสักอย่างด้วยอะไร มันคืออารมณ์ แต่อารมณ์ที่เราสนุกกับบางสิ่งบางอย่างได้นั้น มันต้องตอบสนองกับของแบบไหนกัน จะหาเหตุผลเรื่องนี้คงต้องนั่งวิจัยกันหน่อย แต่การได้ดูอนิเมะแนวฝ่าเวลาไปหาอดีตอะไรแบบนี้ดูจะเป็นที่ชื่นชอบของคนหลายคนเหมือนกัน


อนิเมะแนวนี้มันสนองความต้องการของมนุษย์

  อนิเมะแบบนี้น่าจะเคยให้เราได้สัมผัสกับความรู้สึกที่ว่า เราอยากจะเข้าไปแก้ไขอดีต ในเมื่อเรามีความรู้จากอนาคต จะเป็นยังไงกันถ้าเราได้เอามันมาใช้กับคนที่อยู่มาก่อนเรา ความรู้สึกที่อยากแก้ไข ความรู้สึกที่อยากให้อะไร ๆ มันดีขึ้น ความรู้สึกที่ว่าไม่อยากให้คนในอดีตต้องมาผิดพลาดแบบเราที่อยู่ในอนาคต เราได้ผ่านช่วงเวลาของความผิดพลาดของมวลมนุษยชาติมาก่อน ถ้าเรามีหัวทันสมัย เราคงอยากให้อดีตมันดีขึ้น เพื่อให้อนาคตมันดีขึ้นเหมือนกัน แม้เราจะไม่ได้กลับมารับผลลัพท์การกระทำในอดีต แต่มันคงจะรู้สึกดีมาก ๆ กับการที่เหมือนเราได้ล่วงรู้อนาคต และได้นำมันมาแชร์กับคนยุคเก่า ๆ 

  มันคือความรู้สึกที่ทำให้เราเหมือนมีอำนาจ เราได้ใช้อำนาจนั้นสรรค์สร้างสิ่งต่าง ๆ ที่เราต้องการ แม้เราจะทำเองไม่ได้ในโลกจริง แต่อย่างน้อยการได้สร้างสรรค์เนื้อหาเหล่านี้ลงไปในโลกสมมุติอย่างนิยายหรืออนิเมะน่าจะเป็นการตอบสนองต่อความต้องการส่วนตัวของผู้เขียน และความสนุกของการได้ลอง ลองดูว่าถ้าเราเอาสิ่งที่เรารู้ในปัจจุบันไปใช้ในอดีต มันจะให้ผลลัพท์ออกมาเป็นแบบไหน และในเมื่อเราสามารถนำอดีตไปสู่อนาคตได้เร็วขึ้น แล้วเมื่อปัจจุบันเดินทางมาถึงอดีตเร็วกว่าที่คิด แล้ว ณ ตอนนั้นไปอนาคต มันจะเร็วสักแค่ไหนกัน 

  เคยคิดกันเลย ๆ ไหมว่าอยากให้มีอนิเมะที่อารยธรรมของปัจจุบันถูกนำมามอบให้อดีต ในโลกที่มีทั้งเวทย์มนตร์และชาติพันธุ์ที่หลากหลาย การได้เห็นวิทยาศาสตร์ที่ผนวกเข้ากับเวทย์มนตร์ มันจะเจ๋งแค่ไหนถ้าเราได้เห็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถทำให้มันสำเร็จได้ ถูกทำให้สำเร็จด้วยการนำเวทย์มนตร์เข้ามาผสมผสาน ถ้าเป็นอย่างนั้นได้จริง เชื่อสิว่ามนุษย์ไม่ได้หยุดอยู่แค่ไปเหยียบดวงจันทร์หรือสร้างอาณานิคมบนดาวอังคารแน่ มันจะสร้างวัฒนธรรมแบบใหม่ขึ้นมาหลากหลายกว่าที่เราคิด ความสนุกจากการได้สำรวจความเป็นไปได้หลาย ๆ อย่างจะถือกำเนิดขึ้น นำมาซึ่งเรื่องราวความสนุกใหม่ ๆ ในอนิเมะที่สุดจะจินตนาการได้ มันต้องเป็นความรู้สึกที่สะใจมากแน่ ๆ ถ้าการย้ายจากปัจจุบันไปหาอดีตได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ซะยิ่งกว่าการใช้เวลาหลายปีเพื่อพิสูจน์หลักการทางวิทยาศาสตร์ให้ได้ และสร้างเป็นโลกที่เราอยู่ในปัจจุบัน 


อนิเมะต่างโลกให้ความเป็นไปได้ที่มากกว่า 

  อย่างที่พูดไปตอนแรกว่าอนิเมะต่างโลกมันมอบอำนาจการสร้างสรรค์เนื้อเรื่องที่มากกว่า ความเป็นไปได้ที่มากกว่า เพราะเรามักจะมองหาความสมเหตุสมผลในการเสพเนื้อเรื่อง แต่ถ้าจะให้เดินเรื่องอยู่บนกฎพื้นฐานของความเป็นวิทยาศาสตร์อย่างเดียว มันคงจะทำให้เนื้อเรื่องสนุกได้ยาก ไม่เบื่อกันหรือกับการต้องอยู่บนโลกความจริง ๆ ที่อะไร ๆ ก็ไม่เป็นแบบที่เราคิด แถมมีแต่เรื่องแย่ ๆ ด้วย การที่สร้างเนื้อเรื่องขึ้นมาในโลกอดีตอย่างยุคกลาง หรือยุคที่ยังใช้เวทย์มนตร์กันอยู่ ดูจะช่วยจัดการกับความสมเหตุสมผลในเนื้อเรื่องได้ดีที่สุด มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเขียนประโยคอธิบายในนิยายของเราโดยที่ให้มันมีเหตุมีผล บางอย่างเพื่อให้มันสนุกก็คงต้องมีวิ่งหนีออกจากฟิสิกส์กันบ้าง การให้เหตุผลว่ามันเป็นพลังวิเศษคงจะดีที่สุดแล้ว และให้ความเป็นไปได้ในการพจญภัยที่หลากหลายกว่า 

  แล้วถ้าถามว่าทำไมไม่มีอนิเมะแนวอนาคตล้ำ ๆ บ้างล่ะ เหตุผลก็แบบเดียวกันกับการสร้างเนื้อเรื่องแฟนตาซีจากอดีต สิ่งหนึ่งที่เป็นความยากของอนาคต คือเราไม่รู้ว่าอนาคตมันเป็นยังไง มันจะมีอะไรได้บ้าง มันมีความเป็นไปได้แบบไหนที่จะเกิดขึ้นได้ ในขณะที่อดีตคือสิ่งที่เรามีความรู้เกี่ยวกับมันอยู่แล้ว เรารู้ว่าอดีตเป็นยังไงและเราชอบที่จะเข้าไปวิ่งเล่นในห้วงเวลานั้น แต่อนาคตนั้น ใกล้เคียงกับอนาคตที่สุดก็คงจะเป็นปัจจุบันที่เรายืนอยู่นี่แหละ แม้ว่าอนิเมะบางเรื่องจะสามารถผลิตเนื้อหาออกแนวล้ำยุคออกอนาคตให้เราได้เสพกันได้ แต่ลองมานึกดูดี ๆ ถ้าเราจะเขียนอะไรสักอย่างที่เป็นสิ่งใหม่  มันจะเป็นอะไรได้บ้างล่ะ เทคโนโลยีที่คนในอนาคตจะมี อะไรสักอย่างที่มันล้ำสมัยและหาไม่ได้ในยุคปัจจุบัน มันยังคงยากอยู่ดีสำหรับการจะนึกถึงอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นได้ในอนาคต และยิ่งต้องมาเขียนเหตุผลให้มันสมเหตุสมผลอีกนี่ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ นี่น่าจะเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงโหยหาอดีตกันมากกว่าอนาคต เรารู้ว่าอดีตถ้าถูกแก้ไขแล้วจะได้อะไรมาในปัจจุบัน แต่เราไม่อาจรู้เลยว่าถ้าเราทำอะไรในปัจจุบัน อนาคตเรามันจะเปลี่ยนไปแบบไหน


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทำไมเล่นเกมแล้วต้องด่ากัน

พิซซ่าญี่ปุ่น หรือ โอโคโนมิยากิ(Okonomiyaki) ที่มาเป็นยังไง

ประวัติของ โดรายากิ ขนมสุดโปรดของ โดราเอมอน