ซูชิ ประวัติความเป็นมาของข้าวปั้นพอดีคำ

 ความเป็นมาของซูชิ



ซูชิ หรือ Sushi อาหารจานโปรดของใครหลายคน ที่รูปแบบจะเป็นข้าวปั้นเป็นทรง ประกบกับปลาข้างบน หรือเนื้อ และ ของคาวชนิดอื่น ๆ ที่ถูกเพิ่มมาในยุคหลัง แต่จุดเริ่มต้นของซูชินั้น มี ความเป็นมา ตั้งแต่ก่อนนับปีคริสต์ศักราชเชียวนะโดยริเริ่มมาจากการปลูกข้าวและการจับปลาตามลุ่มแม่น้ำ โดยเกิดจากความต้องการถนอมอาหารของคนญี่ปุ่น ที่สมัยนั้นยังไม่มีตู้เย็น 


แต่พื้นหลังแท้จริงแล้วมันอาจจะไม่ใช่อาหารญี่ปุ่นโดยดั่งเดิม แต่มีความเชื่อว่ามีการนำเข้ามาจากเมืองจีน จากการบันทึกในตำราโบราณว่ามีชาวจีน กล่าวถึงอาหารที่มีลักษณะเหมือนกับวูชินี้เอาไว้โดยเบื้องต้นเริ่มจากการเป็นปลาเค็มที่ใช้ข้าวเป็นตัวช่วยหมัก พอปลาได้ที่แล้วก็จะหม่ำแค่ปลาเท่านั้น ข้าวจะเอาไปทิ้ง (แอ๊เสียดาย)


แต่ว่านั้นก็เป็นความเชื่อของ ซูชิ ในรูปแบบที่หนึ่งเท่านั้น ยังมีแหล่งอื่นอีกที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ความเป็นมา ของซูชิ ที่อาจจะมาจากเอเชียแถวอาคเย์หรือแถบบ้านของเรานี่เอง ที่ต้องการถนอมหรือหมักหลายชนิด ถ้าให้พูดแบบในบ้านเราก็คือปลาส้ม หรือปลาร้านั่นเอง แต่ว่าสมัยนี้พอมีตู้เย็นกันแล้วจึงนิยมกันพร้อมกับข้าวและปลาไปพร้อมกันเลย จนเหมือนซูชิในปัจจุบันไป



ซูชิ และความเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย



ตามเนื้อเรื่องแล้วซูชิได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ปลาส้ม ในแถบลาวและอีสานของไทย แต่ว่าในช่วงแรก ชาวอเมริกาค่อนข้าวจะทำใจยอมรับอาหารชนิดนี้ได้ค่อนข้างยากเลยทีเดียว เพราะเขายังมองว่าเป็นอาหารดิบ จึงเริ่มมีการลองริเริ่มการทำซูชิจาก ผัก ก่อนโดยใช้การนำข้าวมาม้วนใส่กับผักชนิดต่า ๆ และไข่เป็นต้น ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า แคริฟอร์เนีย โรล ที่ทำให้ซูชิเริ่มรู้จักกันเป็นที่กว้างขวางมากขึ้น


และการที่เริ่มเป้นที่รู้จักญี่ปุ่นเองที่เริ่มพัฒนาเทคโนโลยีในช่วงนั้นจึงเริ่มคิดค้นเครื่องจักรผลิตซูชิ ในการทุ่นแรงการผลิตมากกว่าใช้คนปั้นทีละลูกขึ้นมา และเริ่มมีการผลิตซูชิในรูปแบบอื่น ๆ นอกจากปลามากขึ้น


ซูชิ ทำไมถึงมีพื้นมาจากปลาส้ม 



ปลาส้ม เป็นอาหารที่ทำมาจากข้าวและปลา มีความคล้ายคลึงกับ ‘ฟุนะซูชิ’ แบบดั้งเดิมของแดนปลาดิบมาก ๆ ได้มีนักวิจัยของชาวญี่ปุ่นหลายคนพยายามที่จะค้นคว้าและสำราจ เรื่องจุดกำเนิดของซูชิมานาน แต่ก็มักจะจบกันที่ ปลาส้ม ที่นิยมกันในภูมิภาคเอเชียของเราอยู่ตลอด เลยทำให้เชื่อการเป็นอาหารที่ถูกนำเข้ามาเผยแพร่ ในญี่ปุ่นเสียมากกว่า 


สมัยก่อนนั้น ซูชิ ถือว่าเป็นอาหารที่ราคาแพง เพราะแต่เดิมไม่นิยมรับประทานข้าวที่ใช้ในการหมักกับปลา ทำให้ปรมาณการกินได้นั้นมีน้อย (แหงสิจะกินแต่ปลาจะไปอิ่มได้ยังไง) จนกระทั่งเข้าสู่ยุคสมัย มูโรมาจิ ซูชิ เริ่มกลับมาเป็นที่นิยมในการรับประทานมากขึ้น ผู้คนเริ่มหันมาทานข้าวหมักเพราะเริ่มมีความเสียดาย แต่ผลกลับพลิกทั้งกระดาน เพราะกลายเป็นว่าข้าวที่เป็นส่วนประกอบในการหมักนั้นได้ซึมซับความอูมามิของปลาเอาไว้อย่างเต็มที่ ทำห้รสชาติออกมาดี ตั้งแต่นั้นการนำปลามากินกับข้าวที่หมักแล้วก็เริ่มเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ ซูชิ เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงมากในญี่ปุ่น



แต่ทางลัดเข้ามาถึงในช่วงสมัยของเอโดะครับ เพราะชาวเอโดะตอนนั้นใจร้อนไม่สามารถทนรอความอร่อยของปลาที่ต้องหมักเป็นเวลานานได้ เขาจึงเริ่มลองใช้ น้ำส้มสายชู ที่เป็นเครื่องปลุงอาหารที่ทำจากข้าวหมักแล้ว มาคลุกกันกับข้าว จนทำให้มีรสชาติคล้ายคลึงกับการที่หมักเสร็จแล้ว ทำให้กลายเป็นสูตรทางลัดสู่การทำซูชิ ที่ใช้ข้าวไปคลุกกับน้ำส้มสายชู จนเป็นวิธีการที่นิยมใช้กันมาอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน


เรื่องเล่าของ ซูชิ ของเราเกี่ยวกับ ความเป็นมา ของอาหารชนิดนี้ก็มาถึงปลายทางกันแล้วครับ เอ้า ไหนมีความคิดเห็นยังไงกันบ้างว่าน้องข้าวปั้นมีพื้นฐานมาจากอาหารไทยได้ มีใครตกใจกันบ้างหรือเปล่านะ หรือพอจะเดา ๆ กันได้เอ่ย โดยส่วนตัวผมก็ค่อนข้างจะชอบเมนูนี้มาก เป้นจานโปรดเวลาอยากจะกินอาหารญี่ปุ่นเลยทีเดียว อยากจะลองไปกินที่ญี่ปุ่นสักครั้งเหมือนกัน เพราะว่าที่นั่นจริงจังเรื่องการทำมาก ๆ ขนาดต้องเรียนจบการปั้นหรือการผ่าปลา เป็นชนิดนั้น ๆ โดยเฉพาะเลยทีเดียว



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทำไมเล่นเกมแล้วต้องด่ากัน

พิซซ่าญี่ปุ่น หรือ โอโคโนมิยากิ(Okonomiyaki) ที่มาเป็นยังไง

ประวัติของ โดรายากิ ขนมสุดโปรดของ โดราเอมอน